วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2556

คลื่นความถี่ย่านต่างๆในระบบโทรศัพท์ คืออะไร และเลือกอย่างไร


                 ช่วงนี้ค่ายมือถือต่างๆได้ออกมาโปรโมทระบบอินเตอร์เน็ตของตัวเองกันอย่างมาก เพื่อให้ผู้ใช้งานหันมาใช้บริการในระบบของตัวเอง บ้างก็ว่าระบบของที่นี่มีครอบคลุม บ้างก็ว่าที่นี่มีมาตรฐานสากล บ้างก็ว่าของที่นี่ส่งได้ไกลกว่า แล้วผู้บริโภคอย่างเราๆ จะพิจารณาอย่างไรดี

                   ความจริงแล้ว คลื่นความถี่ 3G ทุกคลื่นล้วนเป็นมาตรฐานที่กำหนดโดย ITU (International Telecommunication Union) และเทคโนโลยี 3G นั้นสามารถทำงานบนความถี่ใดก็ได้ แต่ที่นิยมกันคือคลื่นความถี่ย่าน 2100, 1900, 1700, 850 และ 900 MHz ซึ่งคลื่นความถี่เหล่านี้ล้วนเป็นมาตรฐานสากลทั้งสิ้น ไม่มีผู้ให้บริการ 3G รายใดในโลกที่ใช้คลื่นความถี่ที่ไม่ตรงกับมาตรฐาน

                  แต่ว่าคลื่นความถี่ย่าน 2100 MHz ถูกกำหนดโดย ITU ให้เป็นย่านความถี่สากลของ 3G ซึ่งเราก็ทราบกันดีว่าบริษัทไหนได้ครอบครองกรรมสิทธิ์นี้ไป

ในเมื่อใช้ได้หลายย่านแล้วจะกำหนดมาตฐานไปทำไม?

                  ก็ขอเรียนให้ทราบดังนี้ว่า ในยุคสมัยของ 2 G ยังไม่มีการกำหนดย่านความถี่สากล ทำให้เกิดปัญหาแต่ละบริษัท แต่ละประเทศ มีย่านความถี่ไม่เหมือนกันเลย ทำให้ผู้ใช้งานเกิดปัญหา โทรข้ามประเทศไม่ได้บ้าง เล่นเน็ตข้ามเขตไม่ได้บ้าง เพราะอย่างนี้เอง ในระบบ 3 G จึงต้องจัดการตรงนี้ให้เด็ดขาด เพื่อให้สามารถโรมมิ่งข้อมูลได้ทุกๆที่ทั่วโลก

ตกลงเราจะใช้ย่านความถี่ใดดีที่สุดล่ะ?

                 เรื่องนี้ก็แล้วแต่เราแล้วละครับ เพราะความถี่ไหนก็ใช้ได้เหมือนกันหมด เพียงแต่ว่าถ้าหากใช้ระบบที่มีความถี่มาก สัญญาณก็จะชัดเจนดี แม้คนใช้เยอะก็ไม่หวั่น แต่ปัญหาก็คือสัญญาณไปได้ไม่ไกล มากนัก แต่ถ้าหากว่าเลือกใช้ระบบที่มีความถี่น้อย ก็จะส่งสัญญาณไปได้ไกล แต่หากมีคนใช้เยอะๆ ก็แย่เหมือนกัน ก็ลองเลือกดูนะครับ

วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

คุณสมบัติมือถือ Samsung Galaxy S4 mini


ลักษณะเด่นของ Samsung Galaxy S4 mini

  • จอแสดงผลแบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 960x540 Pixels (qHD : กว้าง 4.3 นิ้ว : 256 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 305
  • ประมวลผลการทำงานด้วย Dual-Core Krait Processor (ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8930 Snapdragon 400) ความเร็วในการประมวลผล 1.7 GHz พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.2.2 (Jelly Bean)
  • หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB และ RAM ขนาด 1 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 32 GB
  • เชื่อมต่อ HTML Browser ผ่านระบบ WiFi, LTE, HSPA, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC, Bluetooth หรือ Infrare
  • กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้าน Pixels พร้อมกล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 1.9 ล้าน Pixels
รายละเอียดตัวเครื่อง

  • ระบบสัญญาณ Tri Mode (LTE/WCDMA/GSM) 
- LTE (เฉพาะโมเดล GT-i9195) 
- WCDMA/HSDPA Quad Band (850/900/1900/2100 MHz) 
- GSM Quad Band (850/900/1800/1900 MHz) 
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว (Dual SIM : เฉพาะโมเดล GT-i9192)
  • ขนาด 124.6x61.3x8.94 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 107 กรัม
  • ชนิดจอแสดงผลแบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 960x540 Pixels (qHD : กว้าง 4.3 นิ้ว : 256 ppi) 
- หน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 305 
- User Interface แบบ TouchWiz UI 
- ระบบสัมผัสแบบหลายจุด (Multi-Touch) 
- ระบบ Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ 
- ระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน 
- ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ Gyro Sensor
  • ชนิดแบตเตอรี่ Li-Ion 1900 mAh
  • ระยะเวลารอรับสายสูงสุด ประมาณ - ชั่วโมง
  • ระยะเวลาสนทนาสูงสุด ประมาณ - ชั่วโมง
  • ประมวลผลการทำงานด้วย Dual-Core Krait Processor (ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8930 Snapdragon 400) ความเร็วในการประมวลผล 1.7 GHz
  • ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.2.2 (Jelly Bean)
  • หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 8 GB (เหลือให้ใช้งานจริงประมาณ 5 GB)
  • หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB (โมเดล GT-i9195) หรือ 1.5 GB (โมเดล GT-i9190)
  • รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 64 GB
  • หน่วยความจำสมุดโทรศัพท์
  • บันทึกข้อมูลการโทร (โทรออก, รับสาย, ไม่รับสาย)
คุณสมบัติข้อความต่างๆ

  • SMS (Short Messaging Service)
  • MMS (Multimedia Messaging Service)
  • Email 
- รองรับการใช้งานระบบ Push Email 
- รองรับการใช้งานบริการระบบอีเมลของ Gmail
  • Instant Messaging (ChatON, Google Talk)
  • SNS (Social Network Service) 
- รองรับการใช้งาน Google+, Facebook, Twitter, Picasa
  • ระบบสะกดคำอัตโนมัติ (Swype)
คุณสมบัติการเชื่อมต่อ

  • HTML Browser 
- รองรับมาตรฐาน HTML5 
- รองรับการใช้งานฟังก์ชัน RSS Feeds
  • WiFi (WLAN : Wireless LAN : 802.11 a/b/g/n) 
- รองรับความถี่ WiFi แบบ Dual Band (2.4 และ 5 GHz) 
- ฟังก์ชัน WiFi hotspot สำหรับการแชร์อินเทอร์เน็ตผ่านทางสัญญาณ WiFi 
  • - เทคโนโลยี WiFi Direct รองรับการเชื่อมต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเครื่องได้โดยตรง โดยไม่ต้องอาศัยเครือข่าย หรือตัวกระจายสัญญาณ WiFi 
- สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่รองรับเครือข่ายแบบ DLNA (Digital Living Network Alliance)
  • LTE Cat3 (ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 100 Mbps : ความเร็วในการอัพโหลดสูงสุด 50 Mbps)
  • HSDPA (42 Mbps) : HSUPA (5.76 Mbps)
  • EDGE
  • GPRS
  • NFC (Near Field Communication : การสื่อสารข้อมูลระยะใกล้ : อ่าน, เขียน, แชร์ : เฉพาะโมเดล GT-i9195)
  • Bluetooth เวอร์ชัน 4.0 
- รองรับเทคโนโลยี BLE (Bluetooth Low Energy) 
- รองรับการเชื่อมต่อใช้งานกับหูฟัง Bluetooth แบบ Stereo (A2DP) 
- รองรับเทคโนโลยี EDR (Enhanced Data Rate)
  • Infrared Port 
- ฟังก์ชัน IR Blaster 
- แอพพลิเคชั่น Samsung WatchON
  • USB Data Cable (microUSB : USB เวอร์ชัน 2.0)
  • ช่องต่อสายหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร
  • ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) 
- ฟังก์ชัน A-GPS ในตัว (Assisted Global Positioning System) 
- รองรับการใช้งานกับระบบดาวเทียมของรัสเซีย (GLONASS : Global Navigation Satellite System) 
- ค้นหาข้อมูลแผนที่ผ่านทางโปรแกรม Google Maps 
- โปรแกรมเข็มทิศดิจิตอล (Digital Compass)
  • ค้นหาและดาวน์โหลดแอปพลิเคชันผ่านทาง Google Play Store
  • ค้นหาและเปิดดูคลิปวิดีโอบน YouTube
  • ค้นหาข้อมูลผ่านโปรแกรม Google Search
คุณสมบัติโดยทั่วไป

  • เสียงเรียกเข้าแบบ Polyphonic Ringtones 
- รองรับไฟล์เสียงเรียกเข้าแบบ MP3, WAV 
- แสดงรูปภาพขณะมีสายเรียกเข้า (Photo Caller ID) 
- ระบบสั่นในตัว
  • นาฬิกาบอกเวลา
  • นาฬิกาแสดงเวลาทั่วโลก
  • ตั้งปลุก
  • โปรแกรม Organizer
  • ปฏิทินพร้อมบันทึกนัดหมาย
  • เครื่องคิดเลข
  • โปรแกรมเล่นไฟล์เพลง FLAC, MP3, AAC, AAC+, eAAC+, WAV, WMA, AC3
  • โปรแกรมเล่นไฟล์วิดีโอ DivX, XviD, MPEG4, WMV, H.263, H.264
  • ลำโพงเสียงในตัว (Loudspeaker)
  • โปรแกรม Group Play
  • โปรแกรม S Health
  • โปรแกรมเปิดอ่านไฟล์เอกสาร
  • สั่งงานด้วยเสียง
  • โทรออกด้วยเสียง
  • บันทึกเสียง
  • Handsfree และ Speakerphone ในตัว
คุณสมบัติอื่นๆที่น่าสนใจ

  • กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้าน Pixels 
- ความละเอียดสูงสุดของภาพถ่าย 3264x2448 Pixels 
- ไฟแฟลชในตัว (LED Flash) 
- ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ (Auto Focus) 
- ระบบเลือกจุดโฟกัสภาพด้วยการสัมผัส (Touch Focus) 
- ฟังก์ชัน Face Detection ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการโฟกัสไปที่ใบหน้าของผู้ถูกถ่าย 
- โหมดถ่ายภาพแบบ HDR (High Dynamic Range) 
- โหมดถ่ายภาพในแนวกว้าง (Panorama Mode) 
- โหมดถ่ายภาพแบบ Sound and Shot 
- ฟังก์ชัน Geotagging รองรับการแนบข้อมูลพิกัดตำแหน่งบนพื้นโลกไปกับรูปถ่าย 
- โปรแกรมตกแต่งแก้ไขรูปภาพ 
- ถ่ายภาพวิดีโอ (Full HD : 1080p : 1920x1080 Pixels : 30 fps) 
- โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ
  • กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 1.9 ล้าน Pixels 
- ถ่ายภาพวิดีโอ 
- รองรับการใช้งานฟังก์ชัน Video Calling (สนทนาพร้อมภาพวิดีโอ)
  • วิทยุ FM Stereo ในตัว พร้อมรองรับการใช้งานระบบ RDS (Radio Data System)
  • รองรับ Java Applications (ใช้งานผ่านทาง Java MIDP Emulator)
  • เกมส์ในเครื่อง
  • มี 2 สีมาตรฐานให้เลือก (Black Mist และ White Frost)
  • เปิดตัวครั้งแรก เมื่อ เดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ. 2013
  • กำหนดการออกวางจำหน่าย เดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 2013

วันเสาร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2556

เพิ่มความเร็ว Smartphone


                เมื่อใช้ โทรศัพท์มือถือ Smartphone ไปสักระยะ ระบบปฏิบัติการจะทำงานช้าลงไปอย่างเห็นได้ชัด นั่นก็เป็นเพราะว่า ได้ติดตั้ง application ใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเติม และแต่ละ application ก็จะมีการจัดเก็บข้อมูลการประมวลผลต่างๆ เอาไว้ ถ้าหากไม่ได้รับการดูแล หรือจัดการข้อมูลต่างๆให้ดีดี จะทำให้มือถือ Smartphone ประมวลผลได้ช้าลง 

                 เมื่อทราบถึงปัญหาหลักๆของสาเหตุที่ทำให้มือถือ Smartphone ทำงานได้ช้าลงแล้ว คราวนี้ก็มาปรับแต่งเพิ่มความเร็ว Smartphone ทั้ง 5 ข้อ กันเลยครับ

การเพิ่มความเร็ว Smartphone

1.) โหลด Application เท่าที่จำเป็นเท่านั้น

                ในการดาวน์โหลด Application ส่วนมากไม่ได้ใส่ใจกับการจัดระบบข้อมูล เห็นเกมส์หรือโปรแกรมอะไรน่าโหลด ก็โหลดมาหมด จนมือถือ Smartphone มี Application เต็มเครื่อง ส่งผลทำให้เครื่องทำงานได้ช้าลง

                เพราะฉนั้นหาก Application ไหนไม่ได้ใช้แล้ว ก็ควรลบออก เหลือไว้แต่ Application ที่จำเป็นๆ เช่น แอปสแกนไวรัส แอปจัดระบบข้อมูล แอปแชท แอปลบไฟล์ขยะ เป็นต้น

2.) Update ระบบปฏิบัติการ

                ไม่ว่าจะใช้ระบบปฏิบัติการ Android iOS Symbian windows หรืออะไรก็ตาม ควรจะอัพเดทตลอดเวลาตามที่ระบบส่งมาให้ เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆ ทั้ง Bug Lags เป็นต้น


3.) Restart มือถือ Smartphone

                 แม้ว่าโทรศัพท์มือถือ Smartphone จะถูกอัพเดทมาดีเพียงใด ข้อผิดพลาดก็คงมีอยู่เสมอ ไม่มากก็น้อย ซึ่งเป็นสาเหตุให้เครื่อง Smartphone ช้าลง หากเครื่องช้าลงมากผิดปรกติให้ลอง Restart เครื่องใหม่ วิธีนี้ก็สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้

 4.) โหลด Application เพิ่มความเร็วมาติดตั้ง

                ในตอนนี้มี Application เพิ่มความเร็วมาให้ใช้มากมายลองหาโหลดมาใช้ได้จาก Play Store แล้วก็อย่าไปโหลด Application จากที่แปลกๆนะครับ ตอนโหลดก็ดูที่มาที่ไป ดูคอมเม้นจากผู้ใช้งานด้วย ว่าเป็นมาอย่างไร ดีหรือไม่ หากโหลดมั่วชั่ว แถมไวรัส หรือมัลแวร์มา คราวนี้อาจจะต้องลงระบบปฎิบัติการใหม่ เสียเวลาไปนานเลย

5.) ซื้อเครื่องใหม่ที่ดีกว่าเดิม

               ข้อนี้ไม่ได้กวนนะครับ แต่เป็นเรื่องจริงที่สักวันหนึ่งมือถือ Smartphone ของเราก็ต้องตกยุค ยิ่งมีการพัฒนามากขึ้น ความต้องการของระบบ Smartphone ก็ยิ่งมากขึ้น ก็มีความจำเป็นต้องถอยเครื่องใหม่มาใช้ เพราะถึงแม้เราจะปรับแต่งเครื่องแค่ไหน ก็ไม่สามารถเล่น Smartphone อย่างไหลลื่นได้เหมือนเดิม

วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2556

Whats app Messenger โปรแกรมแชท Smartphone


                  Whats app Messenger เป็นโปรแกรมแชทที่ฮิตในสมาร์ทโฟนที่แอปหนึ่งที่น่าสนใจดาวน์โหลดมาใช้ เนื่องจากว่าเป็นแอปพลิเคชันที่เสถียร แรงและเร็วกว่า LINE จึงเป็นที่นิยมกันอยู่พอสมควร

                 แอปพลิเคชัน Whats app ก็มีตัวการ์ตูนน่ารักๆต่างๆให้ส่งเช่นกัน แต่ก็มีไม่มากนัก เนื่องจากนักพัฒนาส่วนใหญ่หันไปพัฒนา LINE กันหมด แต่ก็ไม่ได้ทำให้ยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Whats app น้อยลงไปเลย

                  เหตุผลที่กลุ่มผู้ใช้ Smartphone ส่วนใหญ่ โหลดโปรแกรมแชททั้ง LINE และ Whats app ไปทั้ง 2 อย่าง เนื่องจากว่า ปัญหาของแอปพลิเคชัน LINE ยังมีมากพอสมควร บางทีก็ส่งไม่ได้ บางทีก็ค้าง บางครั้งก็เปิดไม่ออกเอาดื้อๆ แม้ทางโปรแกรมเมอร์จะพัฒนาเวอร์ชันใหม่ๆ มาให้อัพเดทอยู่เสมอ แต่ก็ยังคงมีปัญหาอยู่เรื่อยๆ 

                  ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ใครหลายๆคนที่มีธุระด่วนอยากส่งข้อความเกิดความหงุดหงิด จึงต้องโหลด Whats app มาอีกแอปหนึ่ง เพื่อไว้ใช้ทดแทนกัน 

                  แอปพลิเคชัน Whats app นี้ไม่หนักเครื่อง ทำงานได้รวดเร็ว ถือว่าใช้การได้ดีมากพอสมควร การดาวน์โหลดก็ง่ายและฟรีครับ

ดาวน์โหลด Whats app Messenger

ไปที่ Play Store > TOP Free > Whats app Messenger > Install

วันเสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2556

วิธีประหยัดแบตมือถือสมาร์ทโฟน


                 มือถือสมาร์ทโฟนเป็นมือถือที่ทำอะไรได้มากว่ามือถือธรรมดาทั่วไป จึงค่อนข้างรับประทานไฟฟ้ามากพอสมควร

                 ด้วยเหตุนี้เองที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนหลายๆท่านจึงมักบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า แบตเตอร์รีหมดไว แต่ความจริงแล้วหากเราทราบว่าแหล่งที่มาของการกินแบตเตอร์มาจากที่ใดบ้าง ก็คงพอช่วยประหยัดแบตเตอร์รีได้ในระดับหนึ่ง

                  สำหรับคนที่มีตังค์หน่อย จะซื้อแบตสำรอง หรือเครื่องชาร์ตแบตแบบพกพามาใช้ก็คงไม่มีปัญหา แต่หากไม่ต้องการพกของเยอะแยะพลุงพลัง ก็มาดูวิธีการประหยัดแบตเตอร์รีกันดูครับ

1.) ปิดการเชื่อมต่อไร้สายที่ไม่จำเป็น

                 การเชื่อมต่อที่ว่านี้ก็คือ Bluetooth Infrared GPS หรือแม้กระทั่ง WiFi หากในบริเวณนั้นไม่มีสัญญาณ Wireless ที่สามารถจะเชื่อมต่อได้ ก็ควรปิดไว้

                 แต่ในกรณีที่มีสัญญาณ Wireless ที่สามารถเชื่อมต่อได้ ก็ควรเลือกที่จะเปิด WiFi แล้วปิดโปรโมชันอินเตอร์เน็ตดีกว่า เพราะการเชื่อมต่อสัญญาณ WiFi นั้น ประหยัดแบตเตอร์รีกว่าการเชื่อมต่อข้อมูลแบบ 3G พอสมควร

2.) จัดการระบบหน้าจอให้ดีขึ้น

                   กว่า 50 เปอร์เซ็นของอัตราการกินแบตเตอร์รีของสมาร์ทโฟนมาจากหน้าจอนี่เอง ดังนั้นหากเราจัดการลดพลังงานจากส่วนนี้ได้ ก็จะสามารถประหยัดแบตเตอร์รีได้เช่นกัน 

                   2.1 ลดความสว่างของหน้าจอ ปรับให้พอดีกับสายตาของผู้ใช้ ไม่สว่างและมืดจนเกินไป แต่ละคนมีความพอดีไม่เหมือนกัน ข้อนี้จึงกำหนดตายตัวไม่ได้ ว่าต้องสว่างขนาดไหน

                   2.2 ตั้งเวลาดับหน้าจอ การใช้งานสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่แล้วจะตั้งเวลาดับหน้าจอหรือลดแสงที่หน้าจอประมาณ 1 นาที ซึ่งมากเกินความจำเป็น ควรปรับลดลงมาเหลือสัก 20 - 30 วินาทีจะประหยัดแบตเตอร์รี่ได้มาก

                   2.3 ถ้าเป็นไปได้ให้ใช้หน้าจอสีดำ เนื่องจากว่ายิ่งใช้สีสว่างมากแค่ไหน ก็ยิ่งต้องใช้พลังงานแสงมากขึ้นเท่านั้น เมื่อใช้แสงมาก แบตเตอร์รีก็เปลืองมากตามไปด้วย

                   2.4 ไม่ใช้หน้าจอภาพเลื่อนไหว หรือที่เรียกกันว่า Screen Saver บนหน้าจอนั้นมีอัตราการกินไฟเยอะมากพอๆกับเล่นเกมส์เลยทีเดียว

                   2.5 ยกเลิก Widget ที่ไม่ค่อยได้ใช้ ส่วนใหญ่แล้วผู้ใช้สมาร์ทโฟนมักสร้าง Widget ขึ้นมามากมายบนหน้าจอหลัก เพื่อความสะดวกในการเข้าใช้งาน แต่ผลที่ตามมาก็คือเปลืองแบตเตอร์รี

3.) ปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งาน

                เนื่องจากว่าระบบของ Android นั้น จะมีการ Stand by แอปพลิเคชันไว้ตลอดเวลา เพื่อให้การทำงานนั้นเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ส่งผลให้แบตเตอร์รีถูกสูบไปด้วย หากเป็นไปได้ควรปิดระบบแอปพลิเคชันเหล่านี้ไว้เลย โดยไปตั้งค่าที่ Application Manager

4.) หลีกเลี่ยงความร้อน

                 ก็เป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายของหลายๆคนในเรื่องของการวางมือถือสมาร์ทโฟนไว้ในที่ๆมีความร้อนสูง หรือวางตากแดดไว้ ซึ่งส่งผลทำให้การคายประจุของแบตเตอร์รีไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม

                 เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับเทคนิคการประหยัดแบตเตอร์รีในสมาร์ทโฟน หากใครที่แบตใกล้จะหมดก็ควรทำอย่างที่บอกไปนะครับ

วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556

การเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์


                 เนื่องจากว่าการใช้งานสมาร์ทโฟนมักจะควบคู่ไปกับการใช้งานคอมพิวเตอร์ จึงจะต้องเกิดการถ่ายโอนข้อมูลให้กันและกันอยู่เสมอ เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์ระหว่างคอมพิวเตอร์และมือถือสมาร์ทโฟน และที่นิยมใช้กันที่สุดก็คือ Micro USB

                 ความจริงแล้วนอกจาก การเชื่อมต่อ USB ยังมีการโอนถ่ายข้อมูลได้อีกหลากหลายแบบแล้วแต่การประยุกต์ใช้ เช่น การใช้ Bluetooth Infrared เป็นต้น หรือจะซื้อการ์ด Reader มาแล้วถอด SD Card จากสมาร์ทโฟนมาใส่ แล้วเสียบคอมพิวเตอร์อีกทีหนึ่ง อย่างนี้ก็ได้

                 การเชื่อมต่อในแต่ละแบบต้องระวังไวรัสหรือมัลแวร์ด้วย เพราะทั้งคอมพิวเตอร์และมือถือสมาร์ทโฟนต่างก็เป็นเหยื่อของสิ่งเหล่านี้ไปเรียบร้อยแล้ว หากใครยังไม่ทราบ ลองไปหาอ่านตามบทความเก่าๆดูนะครับ

                  ถึงจะบอกว่าการเชื่อมต่อมือถือกับสมาร์ทโฟนนั้นมีหลายวิธี แต่แน่นอนว่าวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดคงหนีไม่พ้นการใช้สาย Micro USB ต่อ แล้วลง Driver เพื่อให้ระบบปฏิบัติการรู้จัก หากใครใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 ขึ้นไปคงไม่มีปัญหา เพราะระบบปฏิบัติการถูกอัพเดทให้รองรับพอร์ต USB แล้ว หรือใครใช้ Apple เชื่อมต่อกับ Mac OS ก็คงไม่มีปัญหาเช่นกัน เพราะออกแบบมารองรับกันได้อยู่แล้ว

                  แต่ถ้าหากใครที่ใช้ระบบปฏิบัติการอื่นๆ มีความจำเป็นต้องลง Driver ซึ่งถ้าหากทำแผ่น Driver ที่แถมมากับเครื่องสมาร์ทโฟน หายไปแล้ว ก็โชคร้ายหน่อย ต้องไปหาดาวน์โหลดไดว์เวอร์ของตัวเองในอินเตอร์เน็ต ซึ่งความจริงแล้วก็ไม่ยาก แต่ถ้าหากหาไม่ได้จริงๆ ให้ไปอ่านบทความนี้ คลิกที่นี่

                  หลังจากที่โอนถ่ายข้อมูลให้กันแล้ว ก็อย่าลืมเรื่องของการถอด USB อย่างปลอดภัย เพื่อป้องกันข้อมูลเสียหาย หรือบันทึกผิดพลาดด้วย


วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556

วิธีการป้องกันไวรัสสมาร์ทโฟน


                ทุกวันนี้ไม่ว่าใครที่ไหนก็ต้องใช้สมาร์ทโฟนกันทั้งนั้น และโดยส่วนใหญ่ก็มักจะใช้สมาร์ทโฟนในการรับส่งข่าวสารข้อมูลต่างๆ ทางอีเมล ทาง Facebook หรือใช้เข้าบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิตเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการทำงาน

                ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้สมาร์ทโฟนกลายเป็นอีกเป้าหมายหนึ่งสำหรับผู้ไม่หวังดี ที่จะเข้ามาเจาะระบบ หรือแทรกแซงระบบเพื่อดักเอาข้อมูลเหล่านี้ และด้วยความความไม่ปลอดภัยอย่างนี้เองที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนทุกคนต้องอ่านบทความนี้ให้ดี เพื่อเป็นข้อควรระวังในการใช้งานด้านต่างๆ ดังต่อไปนี้

1.) อัพเดทซอร์ฟแวร์อยู่เสมอ

            ในที่นี้หมายถึงการอัพเดทซอร์แวร์ระบบปฏิบัติการของคุณ หากใช้ Android ก็อัพเดท Android หากใช้ iOS ก็อัพเดท iOS ทั้งนี้ก็เพราะว่า การอัพเดทในแต่ละครั้ง โปรแกรมต่างๆจะทำงานได้ดียิ่งขึ้นรวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยด้วย

2.) หลีกเลี่ยงการโหลดแอบพลิเคชันแปลกๆ

               ในการโหลดแอบพลิเคชันลงมือถือสมาร์ทโฟน ควรดาวน์โหลดจากแหล่งที่มาที่ไว้ใจได้ เช่น Google play store หรือ Apple หากเราดาวน์โหลดแอบพลิเคชันมาสุ่มสี่สุมห้าอาจจะมีผู้ไม่หวังดีแอบพ่วงมัลแวร์หรือไวรัสมาให้เราก็ได้

                นอกจากนี้ควรจะอ่านรีวิวและคอมเมนต์จากผู้เคยใช้งานมาแล้วให้ดีเสียก่อน ว่าเป็นอย่างไร หากมีอะไรผิดปรกติก็ไม่ควรโหลดมา

3.) ตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัว และการเข้าถึง

                อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญคือการอ่านว่า แอบพลิเคชันตัวนี้ต้องการเข้าถึงความเป็นส่วนตัวอะไรบ้าง เช่น ต้องการให้ Log in เข้าอีเมลเราหรือไม่ หากต้องการก็ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเข้าถึงโดยน่าสงสัย เช่น เราดาวน์โหลดเกมส์ยิงปืนมา แต่ต้องการให้เรา Log in ซึ่งไม่เกี่ยวกันเลย แบบนี้ต้องระวัง

4.) ปิดการ Sync ข้อมูลและแอบสำคัญเมื่อเชื่อมต่อ Wifi สาธารณะ

                  ในการเชื่อมต่อ Wifi สาธารณะบางแห่ง ต้องระวังเรื่องการ Sync ข้อมูล เพราะบางครั้งเมื่อเราต่อ Wifi อาจจะมีผู้ไม่หวังดี สร้างโปรแกรมขึ้นมาเชื่อมต่อกับข้อมูลส่วนตัวของเรา โดยดักจับ Username และ Password ซึ่งมีวิธีหลากหลายรูปแบบมาก ต้องระวังด้วย

5.) ติดตั้งแอปพลิเคชัน AntiVirus

                  ถึงแม้จะทำให้สมาร์ทโฟนทำงานช้าลงไปบ้างเล็กน้อย แต่ก็ยังดีกว่าถูกขโมยข้อมูลสำคัญไป ซึ่งทางเราได้เคยแนะนำแอปตัวหนึ่งไปแล้วชื่อว่า VirusFighter Android หากยังไม่มี เข้าไปดาวน์โหลดได้เลย คลิกที่นี่


www.BlogPingSite.com

ป้องกันไวรัสสมาร์ทโฟนด้วย VirusFighter Android


                VIRUSfighter Android เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่มเข้ามาในชุดผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัย VIRUSfighter ได้ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องอุปกรณ์ Android จากภัยคุกคามมัลแวร์ล่าสุด 

                  VIRUSfighter Android ถูกออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้งาน ตรวจสอบการใช้งาน การดาวน์โหลดต่างๆ และมีความสามารถในการกำหนดตารางการสแกนเพื่อให้ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะลืมการป้องกันอุปกรณ์

                  เนื่องจากตอนนี้ระบบ Android เป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดสำหรับมัลแวร์มือถือ ด้วยเหตุนี้ VIRUSfighter Android จึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยป้องกันไฟล์ที่มีค่า ข้อมูลและเครือข่ายจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นใหม่ จากนักเขียนไวรัสและการขโมยสถานะของผู้ใช้ 

                   เร็วและเบา VIRUSfighter Android จะสแกนโปรแกรมและแฟ้มข้อมูล เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ Android ปลอดภัยที่จะใช้

วิธีการดาวน์โหลด

               1.) ใช้มือถือสมาร์ทโฟนเชื่อมต่อ wifi แล้วเข้าไปที่ Play Store

               2.) จากนั้นกดที่เครื่องหมายค้นหา (รูปแว่นขยาย) แล้วพิมคำว่า Virusfighter

               3.) จากนั้น กดปุ่ม "ติดตั้ง" เท่านี้ก็เรียบร้อย

หรือ จะนำมือถือสมาร์ทโฟนมายิง QR โค้ดบนหน้าจอนี้ก็ได้ ตามรูป



คุณสมบัติโดยทั่วไปของ VIRUSfighter Android 
  • มีการอัพเดทอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ทันกับภัยคุกคามใหม่ๆ ที่ออกมา
  • การสแกนตามสั่ง ซึ่งจะช่วยรักษาอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ (ตัวเลือกการสแกนกำลังมาในเร็ว ๆ นี้)
  • การสแกนทันทีที่ติดตั้ง เพื่อสแกนแอพพลิเคชั่นใหม่ล่าสุดที่คุณเพิ่งติดตั้งเข้ามาในเครื่องของคุณก่อนที่คุณจะเริ่มใช้มัน เพื่อทำให้มั่นใจว่ามันปลอดภัย
  • เทคโนโลยีการสแกนที่รวดเร็ว
  • การอัพเดทตามเวลาที่กำหนด
  • การสแกนตามเวลาที่กำหนด
  • รองรับอุปกรณ์ Kindle Fire ได้
  • ช่วยให้ธุรกิจตอบสนองความต้องการการปฏิบัติตามการรักษาความปลอดภัยของพวกเขา
  • ช่วยให้แผนก IT มั่นใจว่าเน็ตเวิร์คของพวกเขาจะปลอดภัยอยู่เสมอ


  • Blog Ping Tool

วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556

ไวรัสในสมาร์ทโฟนก็มีด้วยหรือ


                หลายๆคนอาจจะเข้าใจว่า ไวรัสมีแต่ในคอมพิวเตอร์เท่านั้น เพราะว่ายังไม่เห็นไวรัสในสมาร์ทโฟนเลย ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า การพัฒนาไวรัสในสมาร์ทโฟน ยังไม่นิยมแพร่หลายมากนัก แต่ส่วนใหญ่จะออกมาในรูปแบบก่อกวนเล็กๆน้อย ทำให้ผู้ใช้คิดว่า เป็นอาการจากเครื่องแฮงค์เองมากกว่าที่จะคิดว่าเป็นไวรัส

                 เนื่องจากว่าความรุนแรงของไวรัสในสมาร์ทโฟนนั้น ไม่ได้รุนแรงมากจนน่ากลัวเหมือนในคอมพิวเตอร์นี้เอง ทำให้ผู้ใช้งานเกิดความประมาท อาจจะเป็นอันตรายได้ เช่น โดนขโมยข้อมูลในเครื่อง อาจจะเป็นข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลทางการค้า หรือข้อมูลธนาคาร หรืออาจสร้างความเสียหายเล็กน้อยให้เราเกิดความหงุดหงิดใจได้ ซึ่งรูปแบบต่างๆที่มักจะพบเจอมีดังนี้

                  1.) การก่อกวนระบบ การก่อกวนแบบนี้ไม่เป็นอันตรายมากนัก จุดมุ่งหมายเพียงแต่ก่อนกวนระบบต่างๆเล็กๆน้อยๆทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจ เช่น เปลี่ยนภาษา เปลี่ยนตำแหน่งการวางข้อมูล ซึ่งการกระทำบางอย่างก็ส่งผลทำให้เครื่องทำงานช้าลงกว่าเดิม

                  2.) การแพร่กระจายหรือสแปม ไวรัสในลักษณะนี้ตัวมันเองจะไม่มีอันตรายใดๆ เพียงแต่จะเป็นตัวสนับสนุนตัวอันตรายอื่นๆ เช่น ส่งข้อความหรือลิงค์แปลกๆมาให้คุณคลิกเข้าไป แล้วข้างในก็จะมีตัวอันตรายอีกทีหนึ่ง ทางทีดีก็ควรอย่าตอบกลับหรือคลิกเข้าไปในลิงค์แปลกๆ

                  3.) สร้างค่าใช้จ่ายให้ระบบ ไวรัสแบบนี้เริ่มจะอันตรายมาบ้างแล้ว เพราะอาจจะทำให้เงินคุณหมดกระเป๋าแบบไม่รู้ตัว อาจจะมาในรูปแบบเช่น ส่งข้อความมาว่าคุณได้รับรางวัล เพียงโทรมาเบอร์นี้ หรือส่งข้อความกลับมาเบอร์นี้ พอทำตาม ก็จะเสียค่าบริการที่ไวรัสกำหนดขึ้นมา กว่าจะรู้ตัวอีกที เงินในโทรศัพท์ก็หมดแล้ว

                  4.) การดักขโมยข้อมูล ไวรัสตัวนี้อันตรายมาก คล้ายๆไวรัสในคอมพิวเตอร์ เพราะสามารถขโมยความลับของสมาร์ทโฟนได้ทั้งหมด แม้กระทั่งรหัสต่างๆที่เราใช้บริการในเครื่อง เช่น ข้อมูลบัตรเครดิต รหัสบัตร ATM ข้อมูลทางการค้าต่างๆ การป้องกันก็คืออย่าโหลดแอปพลิเคชันแปลกๆมาติดตั้ง เพราะแอปพวกนี้มักจะแถมไวรัสมาให้

www.blogpingtool.com

วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

วิธีการเลือกสมัครโปรโมชันซิมเล่นอินเตอร์เน็ต


                โปรโมชันสำหรับเล่นอินเตอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟนในปัจจุบันมีราคาถูกลงเป็นอย่างมาก มีทั้งแบบเติมเงิน และรายเดือน และต้องยอมรับว่าระบบที่ฮิตที่สุดในประเทศไทยก็คือ AIS DTAC และ TRUE MOVE ซึ่งแต่ละค่ายก็จะมีโปรโมชันแตกต่างกันไปตามลักษณะการใช้งาน

                 ก่อนอื่นก็ต้องมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำศัพท์พื้นฐานเกี่ยวกับปริมาณการนับของข้อมูลในการรับส่ง เพื่อให้เข้าใจในการทำงานกันก่อนนะครับ

                 KB MB GB ย่อมาจาก Kilobyte Megabyte และ Gigabyte คือหน่วยของปริมาณข้อมูล KB = 1 พัน MB = 1 ล้าน GB = 1 พันล้าน โดยการส่งข่อมูลตัวอักษร 1 ตัว คิดเป็น 1 ไบต์ (Byte)

                 ดังนั้น หากโปรโมชันบอกว่า มี 3 G ให้ 500 MB แปลว่า โปรนี้สามารถส่งตัวอักษรได้ทั้งหมด 500 ล้านตัว จึงจะหมดโปร

                  ในกรณีรูปภาพและวิดีโอนั้น ข้อมูลจะมีความจุมากกว่าตัวอักษรมาก ยิ่งชัดและยิ่งขนาดใหญ่มาก ก็ยิ่งมีความจุสูง โดยรูปภาพธรรมดา 1 รูปจะอยู่ที่ประมาณ 100K (1 แสนไบต์) และไฟล์คลิปวิดีโอเล็กๆที่ถ่ายจากสมาร์ทโฟนความยาว 1 นาที ความจุจะอยู่ที่ประมาณ 2MB (2 ล้านไบต์)

                   ดังนั้นในการเลือกโปรต่างๆก็ควรคำนึงถึงว่า เราจะใช้หนักไปทางไหน เพราะว่าในปัจจุบันจะมีโปรโมชันให้เลือก 2 แบบใหญ่ๆ คือ นับตามปริมาณ (GB) และนับตามเวลา (ชั่วโมง)

 1.) นับตามปริมาณการใช้

                เหมาะสำหรับการเล่นอินเตอร์เน็ตธรรมดาทั่วไป เล่น Facebook ค้นหาข้อมูลต่างๆ เพราะเสียปริมาณการใช้น้อย สามารถใช้ในนาน ข้อดีคือ ไม่จำเป็นต้องเปิด-ปิดเน็ตบ่อยๆ ข้อเสียคือ ถ้าดาวน์โหลดไฟล์ใหญ่ๆ หรือดูวีดีโอมากๆ โปรจะหมดอย่างรวดเร็ว

2.) นับตามเวลา

                เหมาะสำหรับนักโหลดไฟล์ตัวยง เพราะว่าอินเตอร์เน็ตแบบ 3 G เป็นอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ดาวน์โหลดแปบเดียวก็เสร็จ แล้วได้ไฟล์ขนาดใหญ่มา ทำให้คุ้มค่าต่อการใช้ ข้อดีคือ สามารถได้ปริมาณข้อมูลที่มากกว่าแบบแรก (สมมุติจ่ายในราคาเท่ากัน แต่แบบแรกอาจจะได้แค่ 1G แต่แบบที่สองนี้อาจจะได้ข้อมูลถึง 10G) ส่วนข้อเสียคือ ต้องหมั่นเปิด-ปิดเน็ต ตลอดเวลาที่จะใช้และเลิกใช้

                 ความจริงแล้วยังมีโปรโมชันอีกมากมายให้เลือก เช่น สมมุติว่าเล่นเน็ตอยู่แค่ 2 อย่าง คือ Facebook กับ LINE ก็สมัครแค่สองอย่างก็ได้ ตามโปรนั้นๆกำหนด ซึ่งก็มีมากมายให้เลือก หากยังตัดสินใจไม่ได้สามารถเข้าไปเยี่ยมชมโปรโมชันต่างๆของแต่ละค่ายดังนี้เลยครับ

โปรโมชัน AIS  คลิกที่นี่

โปรโมชัน DTAC คลิกที่นี่

โปรโมชัน TRUE MOVE  คลิกที่นี่

BlogPingSite.com

วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2556

วิธีสมัครเล่น LINE บน SmartPhone


                LINE แอปพลิเคชันแชทสุดฮิตที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนขาดไม่ได้เลย ด้วยเหตุผลที่ว่า ใช้งานง่าย มีฟังก์ชันเยอะ ลูกเล่นหลากหลาย มีสติ๊กเกอร์น่ารักอัพเดทตลอด ส่งถึงกันได้ไม่มีเบื่อ ส่งข้อความหากันได้ฟรีๆ ตลอดทั้งวัน เพียงแค่มีอินเตอร์เน็ต ในเมื่อรู้แบบนี้แล้วไปดูวิธีสมัครกันเลยครับ

                1.) โหลดแอปพลเคชัน LINE มาติดตั้ง โดยไปที่ Play Store > TOP FREE > LINE คลิกที่ติดตั้ง แล้วรอสักครู่ก็จะเข้าสู่หน้าจอ LINE ดังรูป


              2.) ให้คลิกที่ ล็อคอินด้วยอีเมล


                  3.) จากนั้นใส่เบอร์โทรศัพท์มือถือของเครื่องที่จะเล่น LINE เข้าไปแล้วกด ต่อไป


                  4.) จากนั้นอ่านรายละเอียดและคลิกที่ เห็นด้วยกับข้อตกลงและตรวจสอบ


                 5.) จากนั้นระบบจะยืนยันเบอร์โทรมาให้เรากด ตกลง


                  6.) จากนั้นระบบจะส่งรหัสยืนยันมาที่ข้อความโทรศัพท์ ให้เรานำมาใส่ในแอป LINE อีกที (เลขของแต่ละคนจะไม่เหมือนกันนะ)


                 7.) จากนั้นรอระบบโหลดข้อมูลสักครู่ ก็จะปรากฏหน้าต่าง LINE มาให้แชทกันอย่างเมามันแล้ว




www.blogpingtool.com